วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์น้ำมันข้าวและจมูกข้าว

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีสัดส่วนระหว่างกรดไขมันอิ่มตัว และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่เหมาะสมจึงมีคุณประโยชน์และเหมาะสมต่อการบริโภคมากที่สุด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ผ่านการสกัดอย่าพิถีพิถันนั้นจะสามารถคงคุณค่าความเข็มข้นของสารประกอบสำคัญต่างๆ ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพของเรา

     
         ส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
1.     กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
2.     กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
3.     แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
4.     เซราไมด์ (Ceramide)
5.     ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
6.     โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group) 
กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อการดูแลสุขภาพ เป็นอย่างยิ่ง 
กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมันในเลือดโดยลดแอลดีแอล (LDL –C, Low Density Lopoprotein-Choiesterol) และช่วยเพิ่ม เอชดีแอล – คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL –C ,High Density Lipoprotein – Cholesterol) จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด 
แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการด้วยกันคือ
 -       ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด
-       ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
-       ช่วยลดอาการผิดปกติต่างๆ ของสตรีวัยทอง
-       มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระและป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ท
-       ช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น
-       ช่วยลดการอักเสบต่างๆ ได้  
เซราไมด์ (Ceramide)
เป็นองค์ประกอบของไขมันในชั้นผิวหนัง (Sphingolipid) ซึ่งมีความสำคัญในการปกป้องผนังเซลล์จากการถูกทำลาย มีความสามารถในการกักน้ำได้ดี ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว ทำให้ผิวหนังมีความยีดหยุ่น และชุ่มชื้นอยู่ตลอด 
ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
เป็นโครงสร้างของเยื่อหุ้มต่างๆ ของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยื้อหุ้มเซลล์สมองและประสาท ทำให้การสื่อกระแสประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมในด้านความจำ และช่วยลดอาการเครียดได้อีกด้วย  
โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)
ประกอบด้วย วิตามิน อี (Vitamin E หรือ Tocopherol) โทโคพีนอล (Tocophenol) โทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีหน้าที่ในการเพิ่มความเข็งแรงให้แก่เซลล์ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และป้องกันการแก่ก่อนวัย  
credit : http://www.aimstarlover.com/index.php?option=com_content&view=article&id=51&Itemid=69